กรุงศรี ก้าวสู่ปีที่ 80 ชูแนวคิด ‘Shaping Future Together’ ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

กรุงศรี ก้าวสู่ปีที่ 80 ชูแนวคิด ‘Shaping Future Together’ ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

  

 

กรุงศรี ก้าวสู่ปีที่ 80 ชูแนวคิด ‘Shaping Future Together’ ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน
เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

 

 

กรุงศรี นำโดย นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นางสาวดวงดาว วงค์พนิตกฤต ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน และนายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ประกาศเดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 80 ตอกย้ำเป้าหมาย “ยืนหนึ่งการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน” ภายใต้แนวคิด “Shaping Future Together”

กรุงเทพฯ (27 กุมภาพันธ์ 2568) - กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ภาคภูมิใจในการก้าวสู่ปีที่ 80 หมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงรากฐานอันแข็งแกร่งซึ่งเกิดจากความไว้วางใจ นวัตกรรมอันสร้างสรรค์ และความมุ่งมั่นที่จะทำให้ “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” (Make Life Simple) โดยธนาคารยังคงเดินหน้าสู่เป้าหมาย “ยืนหนึ่งการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน” ในปี 2568 กรุงศรีจะยังคงรักษาบทบาทในการช่วยกำหนดภูมิทัศน์การเงินของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด Shaping Future Together” ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน สร้างโอกาสความเป็นไปได้ทางด้านการเงิน และส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนสำหรับภาคธุรกิจและเศรษฐกิจโดยรวม

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในโอกาสครบรอบ 80 ปีของกรุงศรี และก้าวสู่ปีที่สองของแผนธุรกิจระยะกลาง (Medium-Term Business Plan: MTBP) ฉบับปัจจุบันซึ่งครอบคลุมปี 2567-2569 เราได้ย้อนทบทวนถึงการเดินทางตลอดระยะเวลากว่า 80 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสร้างขึ้นจากความไว้วางใจ นวัตกรรม และความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ  คุณค่าเหล่านี้ได้นำพาเรามาถึงจุดที่เรายืนอยู่ในวันนี้  นับจากนี้และอนาคตข้างหน้า เราจะขับเคลื่อนด้วยความมุ่งมั่นที่มากกว่าเดิมเพื่อสร้างอนาคตที่ประเด็นเรื่องความยั่งยืนและดิจิทัลเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่การเติบโต “Shaping Future Together” หรือคำว่า “ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน” เป็นมากกว่าแค่แนวคิด และมีนัยครอบคลุมหลากหลายมิติ ไม่ใช่หมายความถึงอนาคตของกรุงศรีเท่านั้น แต่หมายถึงอนาคตของลูกค้าและสังคมอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการบอกให้เราทุกคนลงมือทำ และมุ่งเป็นผู้นำในการนำเสนอโซลูชันทางการเงินใหม่ ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจ ผู้คน และชุมชน ไม่เพียงในประเทศไทย แต่ยังรวมถึงทั่วภูมิภาคอาเซียนและอื่นๆ ด้วย”

 

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

 

การเติบโตอย่างสมดุลทางการเงินในปี 2567

ปี 2567 กรุงศรีเติบโตอย่างสมดุล ด้วยผลกำไรสุทธิจำนวน 29,700 ล้านบาท สะท้อนถึงความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจแม้ต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ความมุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในด้านความยั่งยืนและการเงินที่รับผิดชอบสะท้อนให้เห็นผ่านการเป็นผู้นำทั้งในด้าน ESG และการเงินเพื่อความยั่งยืน เช่นเดียวกับการลงทุนในดิจิทัลโซลูชันและเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง รวมทั้งการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเข้มข้น โดยความสำเร็จในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย

  • ความเป็นผู้นำด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนกรุงศรีรักษาตำแหน่งความเป็นผู้นำในการเป็น ESG bond underwriting ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 19%
  • บริการทางการเงินด้วย AI (AI-Power Banking Service): กรุงศรีได้นำระบบการประเมินราคาด้วย AI และโซลูชันการเติมเงินสดที่เครื่อง ATM ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI เพื่อยกระดับประสบการณ์การให้บริการแก่ลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

 

คำมั่นสัญญาสู่อนาคตที่ยั่งยืน

ความมุ่งมั่นของกรุงศรีไม่เพียงบูรณาการความยั่งยืนเข้ากับธุรกิจหลัก (Core Business) แต่ยังมุ่งเสริมสร้างสังคมที่ยั่งยืน ซึ่งขมวดทั้งเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ที่ดีของสังคมไว้ด้วยกันและยึดโยงกันอย่างแนบแน่น โดยกรุงศรีได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Krungsri Net Zero Vision) ซึ่งให้ความสำคัญในเรื่องการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และช่วยเหลือลูกค้าในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ  โครงการด้านความยั่งยืนที่โดดเด่นและประสบความสำเร็จในปี 2567 รวมถึงการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจด้วยแนวทางความยั่งยืนให้กับองค์กรธุรกิจ และ SME มากกว่า 500 ราย ผ่านหลักสูตร ESG Academy และ ESG Symposium ซึ่งเป็นสุดยอดการประชุมสัมมนาด้าน ESG ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถรับมือกับความท้าทายด้านความยั่งยืน และอีกหนึ่งโครงการด้านความยั่งยืนที่สำคัญในปีที่ผ่านมา คือ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนด้วยการนำเทคโนโลยีที่ช่วยประหยัดพลังงานมาใช้ในกระบวนการทำงาน โครงการลดปริมาณขยะ และการใช้พลังงานทางเลือก

 

การขยายเครือข่ายในภูมิภาคอาเซียน

การขยายเครือข่ายธุรกิจของกรุงศรีในอาเซียนได้สร้างความแข็งแกร่งในการเป็นสถาบันการเงินชั้นนำแห่งภูมิภาคอย่างชัดเจน ปัจจุบันเครือข่ายของกรุงศรีครอบคลุมไปยังประเทศต่าง ๆ ประกอบด้วย สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ซึ่งให้บริการลูกค้ารวมกว่า 19 ล้านราย ในปี 2567 ที่ผ่านมา กรุงศรียังได้เปิดให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่านคิวอาร์โค้ด (QR Cross-Border Payment) ให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมได้ใน 8 ประเทศ ซึ่งรวมถึงใน สปป.ลาว ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ กรุงศรี ยังขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่น-อาเซียน ผ่านการจัดงานประชุมจับคู่ธุรกิจ Japan-ASEAN Startup Business Matching 2024 ที่ช่วยสร้างโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ ๆ ในภาคส่วนที่สำคัญหลายด้าน อาทิ HealthTech Fintech และ ESG

 

 

นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)

 

กลยุทธ์สู่อนาคตในปี 2568

ก้าวต่อไปในปี 2568 กรุงศรีจะมุ่งเน้นการดำเนินงานในเรื่อง Corporate Transformation เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตในอนาคต ผ่านกลยุทธ์สำคัญ ได้แก่

•          ONE Krungsri: มุ่งดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์ ONE Krungsri ส่งเสริมการทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว มีความคล่องตัว และยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ด้วยการทำงานร่วมกันอย่างไร้รอยต่อระหว่างหน่วยงานทั้งหมดภายในกรุงศรีและธุรกิจต่าง ๆ ในอาเซียน ธนาคารจึงได้ใช้ประโยชน์จากจุดแข็งในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกลุ่มธุรกิจ เพื่อเสริมโอกาสในการเติบโตและขยายธุรกิจในภูมิภาค

•          การขยายเครือข่ายในอาเซียน: สร้างความแข็งแกร่งให้บริการชำระเงินข้ามพรมแดน และโซลูชันการเงินดิจิทัล โดยกรุงศรีมุ่งเป้ายกระดับสถานะในภูมิภาคให้เด่นชัดยิ่งขึ้น ขณะที่ยังสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนด้วย

•      ความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน: เพื่อเน้นย้ำถึงความเป็นผู้นำด้านการเงินเพื่อความยั่งยืน กรุงศรีได้ตั้งเป้าหมายใหม่ที่จะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืน (Social and Sustainable Finance) ให้ถึง 250,000 ล้านบาทในปี 2573 เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ กรุงศรีจะเดินหน้าให้การสนับสนุนลูกค้าผ่านโซลูชันการเงินเพื่อความยั่งยืน พร้อมขับเคลื่อนความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการการเงินสีเขียว

 

การลงทุนด้านบุคลากรและเทคโนโลยี

กรุงศรีมุ่งลงทุนในด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยกลยุทธ์ People Xcellence ที่สนับสนุนการพัฒนาความเป็นผู้นำให้กับบุคลากร การปรับเปลี่ยนตำแหน่งงานภายในภูมิภาค และการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เท่าเทียม  รวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลแบงก์กิ้ง การวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytics) และการใช้เทคโนโลยี AI ในการพัฒนานวัตกรรมที่ใช้ความต้องการของผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง (Human-centric innovations) เพื่อยกระดับการให้บริการและประสบการณ์ลูกค้า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สำคัญ ได้แก่ Embedded Finance Solutions ซึ่งหมายถึงโซลูชันบริการทางการเงินแบบฝังตัวผ่านความร่วมมือกับแพลตฟอร์มดิจิทัลชั้นนำ ผสานเข้ากับชีวิตประจำวันของลูกค้าอย่างไร้รอยต่อ และช่วยให้สามารถทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้อย่างราบรื่น ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ชีวิตง่ายได้ทุกวันอย่างแท้จริง

 

กรุงศรี ให้ความสำคัญกับการสร้างสมดุลและการเติบโตที่ยั่งยืน โดยคาดว่าตลอดปี 2568 ยอดเงินให้สินเชื่อจะเติบโตที่ 2-4% ตั้งเป้าหมายของส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.8-4.1% ธนาคารคาดว่าอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) จะอยู่ที่ 3.25-3.50% ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (cost-to-income ratio) จะอยู่ในระดับ Mid-40s%.

 

“อนาคตเริ่มต้นวันนี้ ร่วมสร้างอนาคตไปด้วยกัน เราเชื่อว่าความท้าทายจะนำมาซึ่งโอกาสอันยิ่งใหญ่ พัฒนาการและการเปลี่ยนผ่านตลอดเส้นทาง 80 ปีของเราเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยให้เราก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางสู่อนาคตที่ยั่งยืนและดิจิทัลแบงก์กิ้ง เราจะขับเคลื่อนการเติบโตไปด้วยกัน เปิดรับนวัตกรรม และยึดมั่นในเป้าหมาย เพื่อให้ลูกค้ามี ชีวิตง่ายได้ทุกวัน” นายเคนอิจิ กล่าวปิดท้าย

 

 

เกี่ยวกับกรุงศรี

กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และเป็นหนึ่งในหกสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) โดยดำเนินธุรกิจมานานถึง 80 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อรายย่อย การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 572 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 532 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 40 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 32,458 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 10.1 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)) อีกด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.krungsri.com

 

กรุงศรีมีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ “แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต” โดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

 

เกี่ยวกับมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG)

มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 360 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานราว 2,000 แห่ง ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลกและมีพนักงานกว่า 120,000 คน MUFG นำเสนอบริการทางการเงินที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลก” ด้วยการผสานศักยภาพในการดำเนินธุรกิจเพื่อตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้าโดยคำนึงถึงสังคมและการแบ่งปันสู่ความเติบโตอย่างยั่งยืน  MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ MUFG กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.mufg.jp/english